ลวดลายของวอลเปเปอร์ลายไทย ตอนที่1

wallpaper-05

เมื่อเราทราบกันแล้วว่าวอลเปเปอร์ลายไทยนั้นคืออะไรขั้นตอนต่อไปก็คือการเลือกวอลเปเปอร์ลายไทยมาตกแต่งห้องหรือบ้านของเราให้เหมาะสมว่าควรจะใช้วอลเปเปอร์ลายไทยซึ่งเราจะไปดูกันครับว่าในปัจจุบันวอลเปเปอร์ลายไทยเขามีลายแบบไหนกันบ้าง

               วอลเปเปอร์ลายไทยที่ขายกันอยู่ในปัจจุบันนั้นมีอยู่หลายลายด้วยกันแต่ที่นิยมมากๆ มีทั้งสิ้น 16 แบบหรือ 16 ลวดลายได้แก่

1.      ลายเทพพนม วอลเปเปอร์ลายเทพพนมนี้เป็นลายที่นิยมมากที่สุดในบรรดาลายวอลเปเปอร์ทั้งหมดมี ลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดก็คือเทวดาพนมมือที่มักมีเขียนไว้ในสถานที่สำคัญต่างๆ ได้แก่ เช่นในพระบรมมหาราชวังหรือวัดวาอารามเป็นลายที่เราคุ้นตากันดีที่สุด

2.      ลายไทยพุ่มข้าวบิณฑ์  ลายนี้มีที่มาจากการที่ผู้คนนำข้าวปลาอาหารมาตักบาตร จนข้าวพูนขึ้นพ้นบาตรพระจึงมีการนำมาประดิษฐ์เป็นลายพุ่มข้าวบิณฑ์ เป็นลายที่นิมกันมากอีกลายหนึ่ง

3.      ลายปิดทอง วอลเปเปอร์ลายนี้เป็นลายไทยที่มีที่มาจากการจำลองการปิดทองเมื่อคราวบูรณะองค์พระเจดีย์ที่วัดพระแก้ว

4.      ลายประจำยาม ลายนี้เป็นลายที่คิดค้นขึ้นมาจากการวางกระจังในสมัยโบราณเป็นอีกลายหนึ่งที่คนไทยยุคก่อนรู้จักและคุ้นเคย

5.      ลายไทยช่อเปลว ลายนี้เป็นการดัดแปลงจากลายพุ่มข้าวบิณฑ์ด้วยการนำเอาลายกนกมาวางลายใส่

6.      ลายใบเทศ  ลายนี้เป็นลายที่เลียบแบบมาจากต้นไม้ต้นมันเทศ จึงเรียกว่าลายใบเทศ

กำลังจะพูดถึงลายที่นิยมใช้กันในวอลเปเปอร์ลายไทยที่เหลืออีก 10 ลายต่อแต่เสียดายพื้นที่หน้ากระดาษดันหมดพอดีดังนั้นคงต้องยกยอดลายที่เหลือไปคราวหน้าครับ

รางม่านม้วน

certain-005

ม่านม้วนนั้นต่อให้เป็นม่านที่ดีสักแค่ไหนหรือแพงแสนแพงอย่างไรแต่ถ้าหากรางม่านม้วนที่เหมาะสมกับการใช้งานไปก็ไม่สามารถที่จะเป็นม่านม้วนที่สมบูรณ์แบบไปได้ซึ่งในปัจจุบันมีรางที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับม่านม้วนด้วยกัน 4 แบบตามความสะดวกและตามเหมาะสมดังนั้นเราไปดูกันดีกว่าครับว่ารางม่านม้วนทั้ง 4 แบบ 4 ระบบนั้นมีอะไรบ้าง

               รางม่านม้วนแบบแรกที่ถือได้ว่าเป็นที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบันเห็นที่จะหนีไม่พ้นรางม่านม้วนแบบโซ่ดึง รางม่านม้วนในแบบนี้ถือเป็นแบบมาตรฐานที่พบได้บ่อยที่สุดโดยรางม่านนั้นจะเป็นอลูมีเนียมทรงกลม 100% หัวรางสามารถปรับองศาในการดึงได้ด้วยโซ่ดึงระบบวนเส้นเดียว

               รางม่านม้วนแบบที่ 2 คือแบบสปริงล็อค รางประเภทนี้เป็นรุ่นที่ใช้งานได้สะดวกที่สุดเพียงแค่ดึงเชือกที่ชายม่านด้านล่างลงเมื่อต้องการปิดม่านและกระตุกเชือกเบาๆ เมื่อต้องการเปิดม่าน อีกทั้งยังมีระบบเบรคอัตโนมัติเพื่อหยุดม่านตามระดับที่ต้องการอีกด้วย

               แบบที่ 3 ที่จะกล่าวถึงได้แก่แบบกึ่งอัตโนมัติ รางม่านม้วนแบบนี้จะเป็นการรวมเอาระบบโซ่ดึงมาผสมผสานกันกับระบบสปริงล็อคทำให้สะดวกต่อการใช้งานโดยดึงโซ่ลงเมื่อต้องการใช้งานและกระตุกโซ่เบาๆเมื่อต้องการปิดม่านนอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับได้ตามความต้องการอีกด้วย

               แบบที่ 4 แบบกึ่งอัตโนมัติ 2 ชั้น รางม่านม้วนแบบกึ่งอัตโนมัติ 2 ชั้นนี้ เป็นม่านม้วนแบบ 2 ชั้นในรางเดียวกันทำให้สะดวกในการติดตั้งในพื้นที่ๆจำกัดอีกทั้งยังสามารถปรับระดับของแสงได้ตามต้องการอีกด้วย